สรุปงานสัมมนา odiniBLACK Ultimate Allocation “ตัดสินใจลงทุนอย่างไรในภาวะวิกฤตรอบด้าน เพราะมีวิกฤตย่อมมีโอกาส” 

สรุปงานสัมมนา odiniBLACK Ultimate Allocation “ตัดสินใจลงทุนอย่างไรในภาวะวิกฤตรอบด้าน เพราะมีวิกฤตย่อมมีโอกาส” 

🏆 ผลตอบแทน YTD และ 1M ทำผลงานดีกว่าสินทรัพย์หลัก

เราทราบดีว่านักลงทุนต่างวิตกกังวลกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรกที่ผ่านมา 

 

เพียงแต่เมื่อนำเทียบผลตอบแทนของพอร์ตเทียบกับสินทรัพย์อื่น ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ หรือหุ้นกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การจัดพอร์ตของเราแข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด และมากไปกว่านั้น ผลตอบแทนของเรายังทำได้ดีกว่าสินทรัพย์เสี่ยงต่ำอย่างตราสารหนี้โลกกลุ่มอันดับเครดิตน่าลงทุนอีกด้วย แม้ปีนี้ตลาดจะเป็นขาลงครั้งใหญ่ที่หุ้นสหรัฐฯ S&P500 และตราสารหนี้พันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกปรับฐานรุนแรงรอบกว่าศตวรรษ

 

🇻🇳 การลดสัดส่วนหุ้นเวียดนามคือการเดินหมากที่ดีที่สุด

เรา Bullish เวียดนามมาตั้งแต่ก่อตั้ง Model ในช่วงปี 2020 และการปรับพอร์ตที่มีนัยยะสำคัญอย่างมากในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022  คือการลดสัดส่วนที่การลงทุนในเวียดนาม ที่จากเดิมเราสะสมเวียดนามไว้ในพอร์ตสูงถึง 18% เพียงแต่เมื่อประเมินแล้วพบว่ามีความกังวลถึงเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า และราคาสินทรัพย์อื่น ๆ ต่างได้ปรับลงล่วงหน้าแล้ว เราจึงทยอย Take Profit จนปัจจุบันเหลือสัดส่วนเพียง 4%

ภาพระยะยาวของเวียดนามยังแข็งแกร่งเช่นเดิม การที่ตลาดปรับตัวลงหมายถึงโอกาสเก็บสะสมเวียดนามใหม่อีกครั้ง โดยคาดว่าจะกลับมามีสัดส่วน 20% ในอีก 1-3 ปีข้างหน้า

 

🪙 เมื่อมีวิกฤตย่อมมีโอกาส

สถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่สาเหตุเหล่านั้นก็สามารถนำมาซึ่งโอกาสในการลงทุนที่แตกต่างกัน

 

#C Covid – จีนใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ซึ่งมาพร้อมกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แต่เมื่อผ่านจุดที่ร้ายแรงที่สุดไปแล้ว หุ้นจีนก็มีโอกาสที่จะกลับมาสร้างผลตอบแทนอย่างโดดเด่นได้

#R Recession – เมื่อเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ตราสารหนี้คุณภาพสูงอายุเฉลี่ยยาวจะสามารถสร้างผลแทนได้เหนือสินทรัพย์ประเภทอื่น 

#I Inflation – ประเทศที่สามารถควบคุมเงินเฟ้อและ Valuation ไม่แพงมาก อย่างหุ้นจีนและหุ้นเวียดนามมีโอกาสสูงที่จะทนทานต่อความไม่แน่นอนและสร้างผลแทนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สินทรัพย์ที่สามารถถ่ายโอนหรือป้องกันความเสี่ยงของเงินเฟ้อได้อย่าง โครงสร้างพื้นฐาน-อสังหาริมทรัพย์ หุ้น Value หุ้น Defensive หรือ หุ้นที่สามารถส่งผ่านต้นทุนสู่ผู้บริโภคได้ จะเป็นตัวช่วยสร้างผลตอบแทนนำตลาด และเมื่อได้จบรอบของตลาดขาลงแล้ว หุ้น Growth จะกลับมาเป็นตัวที่ Outperform ตลาด

#S Sanction – การเกิดขึ้นของความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์สร้างผลตอบแทนได้ชนะสินทรัพย์ประเภทอื่นและพลังงานสะอาดได้รับประโยชน์จากการลดการพึ่งพาพลังงานดั้งเดิม

 

#E Error of policies – ความผิดพลาดของการดำเนินนโยบายทางการเงินมาพร้อมกับโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดและดอกเบี้ยได้เป็นอย่างดี

#S Stagflation – งานศึกษาได้พิสูจน์เป็นประจักษ์ว่าทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์เป็นผู้ชนะท่ามกลางภาวะดังกล่าว

 

💰 ถือเงินสดไว้ในมือกว่าครึ่ง เตรียมพร้อมเปิดรับโอกาสในครึ่งปีหลัง

จะไม่สามารถคว้าโอกาสได้เลยหากไร้การเตรียมการเป็นอย่างดี ซึ่งเราได้เตรียมพร้อมเดินหน้าปรับกลยุทธ์การลงทุนในครึ่งปีหลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องด้วยนับตั้งแต่ต้นปีเราคาดว่าสภาวะเงินเฟ้อที่จะรุนแรงขึ้นส่งผลถึงแนวโน้มดอกเบี้ยที่จะสูงขึ้นและไม่เอื้อต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นเติบโต ส่งผลให้มีการลดการลงทุนในสินทรัพย์กลุ่มดังกล่าวอย่างมีนัยยะ กลับไปถือเงินสดให้มากขึ้นเพื่อตั้งรับพร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุน โดยปัจจุบันสัดส่วนเงินสดและตราสารหนี้ของพอร์ตรวมแล้วอยู่ที่ราว ๆ 54%   

 

🔮 Be Conservative, Be Patient, Be Focus คือปรัชญาที่เราเลือกดำเนินในครึ่งปีหลัง

ในช่วงที่สถานการณ์การลงทุนเต็มไปด้วยผลลัพธ์ที่คาดเดาได้ยาก หลักยึดที่เราดำเนินอย่างเคร่งครัดมีทั้งหมดสามข้อได้แก่

 

1.Be Conservative หรือระมัดระวังตัวอยู่เสมอ เราจะลงทุนโดยประเมินมูลค่าเพื่อหาความเหมาะสมของ Upside และ Downside พร้อมทั้งต่อรองราคาเพื่อให้มั่นใจว่านักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ต้องเผชิญ

 

2.Be Patient การลงทุนในตราสารการเงินบางครั้งผลลัพธ์อาจจะเห็นผลได้ช้า สภาพตลาดที่ยากส่งผลทำให้ความอดทนเป็นตัวแปรที่สำคัญที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนผ่านพ้นสถานการณ์นี้ไปได้ ขอให้เชื่อมั่นว่าเราตัดสินใจบนหลักการและได้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่า เพียงแค่รอเวลาแก่การออกดอกผล

 

3.Be Focusการลงทุนก็เหมือนกับกีฬาเบสบอล เราไม่จำเป็นต้องออกวงสวิงทุกครั้งที่มีลูกบอลเข้ามา เพียงแต่เมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสที่เราเข้าใจและมั่นใจว่าเป็นจังหวะที่ใช่แล้ว เราต้องหวดไปให้เต็มแรง” นี่คือคำพูดที่สำคัญจาก Warren Buffet หนึ่งในตำนานนักลงทุนระดับโลก นั่นคือเมื่อประเมินแล้วว่านี่คือเกมที่เราถนัด เราเพ่งเล็งพละกำลังทั้งหมดไปยังโอกาสที่เราเข้าใจมันอย่างถ่องแท้ 

 

🗝️ทำไมต้อง odiniBLACK Ultimate Allocation

  • Dynamic Risk/Return Adjustment นโยบายการลงทุนที่สามารถปรับระดับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา
  • Extended Product Variety เพิ่มทางเลือกในการลงทุนใหหลากหลายมากยิ่งขึ้นทั้งในรายประเทศที่น่าสนใจ และในธีมการลงทุนที่ทันสมัยเข้ากับสถานการณ์
  • Flexible Market Timing เพิ่มความยืดหยุ่นของจังหวะการซื้อขายด้วยการทยอยเพิ่มหรือลดน้ําหนักการลงทุนให้เหมาะกับระดับราคาสินทรัพย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตการลงทุน 
  • Portfolio Manager Investing in the Product ผู้จัดการพอรตโฟลิโอใช้เงินส่วนตัวรวมลงทุน

 

#odini 

#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ

#ลงทุนง่ายได้ทุกคน

 

**ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต**

**การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน**

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.