Bond is not dead เมื่อตราสารหนี้ฟื้นคืนชีพ และอาจหวนกลับมาทวงคืนบัลลังก์

Bond is not dead เมื่อตราสารหนี้ฟื้นคืนชีพ และอาจหวนกลับมาทวงคืนบัลลังก์

หากย้อนเวลากลับไปกว่า 40 ปีก่อนหน้า ดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลงอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้เริ่มเป็นสถานการณ์ตรงกันข้าม  

ด้วยเป้าหมายของการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลกเพื่อสกัดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ แม้อาจจะเป็น “สัญญาณเตือน” ก่อนที่เศรษฐกิจจะเกิดการถดถอย ทว่าการที่เศรษฐกิจซึมไม่ได้แปลว่าจะไม่มีโอกาสลงทุน เพราะในขณะเดียวกันก็ได้สร้างโอกาสการลงทุนและถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์

ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ “หมดยุคดอกเบี้ยต่ำ ได้เวลาของ Fixed Income” หรืออาจถึงเวลาของตราสารหนี้ที่จะหวนกลับมาทวงคืนบัลลังก์ของสินทรัพย์การลงทุน 

 

🎟️ทำไมการลงทุนในตราสารหนี้ถึงน่าสนใจในตอนนี้

หากอ้างอิงจากทฤษฏี Intermarket Relationships หรือทฤษฏีความสัมพันธ์ระหว่างสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามแต่ละช่วงเวลา ในช่วงวิกฤต Dot-Com และ Subprime ตราสารหนี้โลกได้ทำจุดสูงสุดก่อน ตามด้วยหุ้น และสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งลำดับการถึงจุดสูงสุดของแต่ละสินทรัพย์ในปัจจุบันกำลังสะท้อนภาพเดียวกับวิกฤตในอดีต อีกทั้งเรายังเห็นว่าตราสารหนี้ มักจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังสินค้าโภคภัณฑ์ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเฉกเช่นในตอนนี้

โดย ณ ปัจจุบัน ตราสารหนี้ทั่วโลกมากกว่าครึ่งให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า 4% นับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ปัจจัยดังกล่าวเป็นประเด็นบวกหนุนให้การลงทุนในตราสารหนี้โดยภาพรวมมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

 

🎫ผลตอบแทนตราสารหนี้สหรัฐฯ น่าสะสมเพื่อสร้างผลตอบแทน แม้ยามเศรษฐกิจแย่ลง

อ้างอิงข้อมูลจาก Financial Times พบว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า Fed น่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเหนือระดับ 4% ภายในสิ้นปีนี้ และคงที่ระดับดังกล่าวระยะเวลาหนึ่งหรือจนพ้นปี 2023 ไป โดยเรามองว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะกลางถึงยาว อยู่ในจุดที่น่าสนใจสะสมเพื่อสร้างผลตอบแทนหากเศรษฐกิจย่ำแย่ลง อย่างไรก็ตามในส่วนของตราสารหนี้ภาคเอกชนยังต้องระมัดระวังจากความเสี่ยงทางด้านเครดิต

 

🎟️ตราสารหนี้ไทยมีความน่าสนใจในแง่ผันผวนต่ำกว่า

มาในฝั่งของตราสารหนี้ในประเทศ ถึงแม้ว่าตราสารหนี้ไทยจะได้รับแรงกดดันจากการปรับเพิ่มอัตราเบี้ยของ กนง. อย่างไรก็ตามเรามองว่าตลาดตราสารหนี้ไทยจะยังทรงตัวและมีความผันผวนที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นตัว ทำให้เราคาดว่า กนง. น่าจะดำเนินนโยบายการขึ้นดอกเบี้ยในลักษณะที่เรียกว่า “ค่อยเป็นค่อยไป” มากกว่า

 

🎫ตราสารหนี้จีน มองหากลุ่มอันดับเครดิตน่าลงทุน หลีกเลี่ยงกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ถึงแม้ว่าประเด็นเรื่องความเสี่ยงผิดชำระหนี้ของอสังหาฯ จีน จะเป็นปัจจัยที่น่ากังวล อย่างไรก็ตาม นโยบายผ่อนคลายของ PBoC และมาตรการสนับสนุนของรัฐบาลมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านหยวนจะเป็นปัจจัยหนุนต่อการกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนได้ เราจึงมองว่าตราสารหนี้จีนเองก็มีความน่าสนใจ โดยมองหาตราสารหนี้กลุ่มอันดับเครดิตน่าลงทุน ที่สำคัญคือหลีกเลี่ยงการลงทุนในตราสารหนี้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการผิดนัดชำระหนี้

 

🗝️ ไม่อยากพลาดขาขึ้นของตราสารหนี้ ให้ odiniBLACK Ultimate Allocation เป็นตัวช่วยการลงทุน

นโยบายการลงทุนที่สามารถปรับระดับความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนให้เหมาะกับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา เพิ่มความยืดหยุ่นด้วยการทยอยเพิ่มหรือลดน้ําหนักการลงทุนให้เหมาะสม ดำเนินการโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ที่สำคัญคือมีการปรับพอร์ตอัตโนมัติ ทำให้ปรับเปลี่ยนสถานะการลงทุนเป็นไปได้อย่างทันท่วงที เพื่อให้นักลงทุนไม่พลาดการลงทุนที่ดีที่สุดในแต่ละช่วง

 

📱 หากสนใจเริ่มลงทุน คลิก odiniapp.co/3NZCMWQ

#odini

#แอปลงทุนกองทุนรวมอัตโนมัติ

*ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต

*การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ที่มา: Robowealth Investment Advisory Securities
No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.